ผู้ติดตาม
About Me
- Gang of 4wd
สินค้าเกษตร
|
วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ปัสสาวะวัวรักษาโรคใบสนิมในนาข้าว
21:00 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
ปัสสาวะวัวรักษาโรคใบสนิมในนาข้าว
คุณลุงบุญส่ง อังคาลัย เกษตรกรผู้มีความเชี่ยวชาญและความชำนาญในเรื่องการทำเกษตรผสมผสาน ไม่ว่าจะเป็นการทำนา การทำสวนผลไม้ผสมผสาน การปลูกพืชผักสวนครัวแบบผสมผสาน ปัจจุบันนี้คุณลุงบุญส่ง อายุ 60 ปี อาศัยอยู่บ้านสันประดู่ ต.บ้านยาง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการทำเกษตรมาแล้วกว่า 40 ปี โดยถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการทำเกษตร ได้รับรางวัล เกี่ยวกับการทำเกษตรอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล ผู้นำอาสาสมัครพัฒนาชุมชนดีเด่น เรื่องการเกษตร รางวัลเกษตรกรดีเด่นประจำตำบล เป็นต้น นอกจากรางวัลที่ได้กล่าวมาแล้ว พืชผักสวนครัวที่คุณลุงบุญส่งปลูกยังได้รับ GAP หรือผักที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และปัจจุบันนี้คุณบุญส่ง ได้ทำเกษตรในพื้นที่กว่า 31 ไร่ 2 งาน โดยได้แบ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งจำนวน 28 ไร่ จะเป็นพื้นที่การทำนา และอีกส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่การปลูกบ้านทำสวนผลไม้ผสมผสานและการปลูกพืชผักสวนครัว รวมถึงพื้นที่การเลี้ยงสัตว์ในเนื้อที่กว่า 3 ไร่ ซึ่งพืชที่คุณลุงบุญส่งปลูกจะเป็นพืชที่ปลอดสารพิษทั้งหมด ถ้าพูดถึงรายได้ การทำเกษตรแบบผสมผสานทำให้คุณลุงบุญส่งมีรายได้หมุนเวียนกันไปทุกวันไม่ว่าจะเป็นจากการขายพืชผักสวนครัว รายได้จากสวนผลไม้ รายได้จากการขายข้าว รวมถึงรายได้จากการเลี้ยงสัตว์ (เลี้ยงวัว และเลี้ยงไก่ ) เป็นต้น
โรคสนิมเหล็กในนาข้าว ซึ่งลักษณะของใบข้าวจะเป็นสีเหลืองน้ำตาลคล้ายกับสนิมต้นข้าวหยุดการเจริญ
เติบโต ข้าวไม่กินปุ๋ย ทำให้ข้าวไม่เจริญเติบโต และทำให้เกิดความเสียหายกับเกษตรกรที่ทำนามักพบในฤดูปลูกข้าวที่มีอากาศร้อนชื้นแผลมีสีส้มเข้มซึ่งเป็นสีสปอร์ที่เชื้อราสร้างขึ้นมาอาการของโรคจะเริ่มปรากฏจากใบล่างๆแล้วลามขึ้นไปทางยอดใบที่เป็นโรคจะตายไปในที่สุด แต่ถ้าเกิดเกษตรกรสามารถหาวิธีในการรักษาแก้ไขได้ทันท่วงที อย่างเช่นคุณลุงบุญส่ง อังคาสัย ข้าวก็จะกลับมาเจริญเติบโตได้อย่างเช่นเดิม เป็นการลดปริมาณความเสียหายของข้าวได้เป็นอย่างดี
ส่วนผสมและวัตถุดิบ
1.ปัสสาวะวัว
2.มูลวัวเปียก
3.ถังสำหรับรองปัสสาวะของวัว
วิธีการนำไปใช้
1.หลังจากที่ได้ปัสสาวะวัวที่รองแบบสดๆ (ใช้ถังรองเก็บไว้) ตามจำนวนที่ต้องการ
2.จากนั้นดำเนินการตักมูลวัวเปียก (ต้องตักตั้งแต่เช้า) เนื่องจากจะได้มูลวัวที่มีประสิทธิภาพ และยังเปียกอยู่ ประมาณ 50 กิโลกรัม
3.นำส่วนผสมที่ได้มาผสมรวมกันและคลุกเคล้าให้เข้ากันพอหมาดๆ แล้วนำไปโรยในนาข้าวบริเวณที่เกิดโรคสนิมเหล็ก ประมาณ 50 กิโลกรัมต่อหนึ่งไร่ และเฝ้าดูอาการของโรคดังกล่าวประมาณ 1 สัปดาห์ ข้าวจะกลับมาเขียวและมีลำต้นที่อวบและแข็งแรงขึ้นเช่นเดิม
ปัสสาวะวัวถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ในการนำไปใช้สำหรับการทำเกษตร ซึ่งปัจจุบันนี้ เกษตรกรหลายๆ ท่านได้นำฉี่วัวที่เลี้ยงไว้มาใช้ในการทำเกษตรแบบหลากหลาย อย่างเช่น การนำปัสสาวะวัวมาใช้ไล่แมลงแทนการใช้สารเคมี ในแปลงการทำเกษตรหรือการนำปัสสาวะวัว มาใช้ในการบำรุงพืชผัก ต่างๆ อย่างคุณลุงบุญส่ง อังคาสัย เกษตรกรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องเกี่ยวกับการทำนาข้าว และทำเกษตรแบบผสมสานในพื้นที่จังหวัดสระบุรีได้นำฉี่วัว มาใช้ในการรักษาโรคใบสนิมในนาข้าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีการง่ายๆ และได้ผลเป็นอย่างดี
หลังจากการใช้ปัสสาวะวัว ผสมกับมูลวัวแบบเปียกๆ แล้ว ประมาณ 1สัปดาห์ ข้าวที่เคยเป็นโรคสนิมเหล็ก ที่มีลักษณะเป็นสีเหลืองคล้ายๆ สนิมนั้น ที่สำคัญข้าวไม่เจริญเติบโต หรือหยุดการเจริญเติบโต ข้าวก็จะค่อยๆ ผลัดใบแล้วก็กลับมาเจริญเติบโตอีกครั้งหนึ่ง ใบที่มีสีคล้ายๆสนิม ก็จะกลับมาเขียวรอการเก็บเกี่ยวต่อไป ที่สำคัญวิธีที่นำมาใช้นั้นเป็นวิธีที่ง่าย และประหยัดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้ทำนาได้เป็นอย่างดี
Clip VDO ปัสสาวะวัวรักษาโรคใบสนิมในนาข้าว
แหล่งอ้างอิงข้อมูล : คุณคุณบุญส่ง อังคาสัย อายุ : 61 ปี
ที่อยู่ : 118 หมู่ที่5 ตำบลบ้านยาง อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
คุณลุงบุญส่ง อังคาลัย เกษตรกรผู้มีความเชี่ยวชาญและความชำนาญในเรื่องการทำเกษตรผสมผสาน ไม่ว่าจะเป็นการทำนา การทำสวนผลไม้ผสมผสาน การปลูกพืชผักสวนครัวแบบผสมผสาน ปัจจุบันนี้คุณลุงบุญส่ง อายุ 60 ปี อาศัยอยู่บ้านสันประดู่ ต.บ้านยาง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการทำเกษตรมาแล้วกว่า 40 ปี โดยถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการทำเกษตร ได้รับรางวัล เกี่ยวกับการทำเกษตรอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล ผู้นำอาสาสมัครพัฒนาชุมชนดีเด่น เรื่องการเกษตร รางวัลเกษตรกรดีเด่นประจำตำบล เป็นต้น นอกจากรางวัลที่ได้กล่าวมาแล้ว พืชผักสวนครัวที่คุณลุงบุญส่งปลูกยังได้รับ GAP หรือผักที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และปัจจุบันนี้คุณบุญส่ง ได้ทำเกษตรในพื้นที่กว่า 31 ไร่ 2 งาน โดยได้แบ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งจำนวน 28 ไร่ จะเป็นพื้นที่การทำนา และอีกส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่การปลูกบ้านทำสวนผลไม้ผสมผสานและการปลูกพืชผักสวนครัว รวมถึงพื้นที่การเลี้ยงสัตว์ในเนื้อที่กว่า 3 ไร่ ซึ่งพืชที่คุณลุงบุญส่งปลูกจะเป็นพืชที่ปลอดสารพิษทั้งหมด ถ้าพูดถึงรายได้ การทำเกษตรแบบผสมผสานทำให้คุณลุงบุญส่งมีรายได้หมุนเวียนกันไปทุกวันไม่ว่าจะเป็นจากการขายพืชผักสวนครัว รายได้จากสวนผลไม้ รายได้จากการขายข้าว รวมถึงรายได้จากการเลี้ยงสัตว์ (เลี้ยงวัว และเลี้ยงไก่ ) เป็นต้น
เติบโต ข้าวไม่กินปุ๋ย ทำให้ข้าวไม่เจริญเติบโต และทำให้เกิดความเสียหายกับเกษตรกรที่ทำนามักพบในฤดูปลูกข้าวที่มีอากาศร้อนชื้นแผลมีสีส้มเข้มซึ่งเป็นสีสปอร์ที่เชื้อราสร้างขึ้นมาอาการของโรคจะเริ่มปรากฏจากใบล่างๆแล้วลามขึ้นไปทางยอดใบที่เป็นโรคจะตายไปในที่สุด แต่ถ้าเกิดเกษตรกรสามารถหาวิธีในการรักษาแก้ไขได้ทันท่วงที อย่างเช่นคุณลุงบุญส่ง อังคาสัย ข้าวก็จะกลับมาเจริญเติบโตได้อย่างเช่นเดิม เป็นการลดปริมาณความเสียหายของข้าวได้เป็นอย่างดี
1.ปัสสาวะวัว
2.มูลวัวเปียก
3.ถังสำหรับรองปัสสาวะของวัว
วิธีการนำไปใช้
1.หลังจากที่ได้ปัสสาวะวัวที่รองแบบสดๆ (ใช้ถังรองเก็บไว้) ตามจำนวนที่ต้องการ
2.จากนั้นดำเนินการตักมูลวัวเปียก (ต้องตักตั้งแต่เช้า) เนื่องจากจะได้มูลวัวที่มีประสิทธิภาพ และยังเปียกอยู่ ประมาณ 50 กิโลกรัม
3.นำส่วนผสมที่ได้มาผสมรวมกันและคลุกเคล้าให้เข้ากันพอหมาดๆ แล้วนำไปโรยในนาข้าวบริเวณที่เกิดโรคสนิมเหล็ก ประมาณ 50 กิโลกรัมต่อหนึ่งไร่ และเฝ้าดูอาการของโรคดังกล่าวประมาณ 1 สัปดาห์ ข้าวจะกลับมาเขียวและมีลำต้นที่อวบและแข็งแรงขึ้นเช่นเดิม
Clip VDO ปัสสาวะวัวรักษาโรคใบสนิมในนาข้าว
แหล่งอ้างอิงข้อมูล : คุณคุณบุญส่ง อังคาสัย อายุ : 61 ปี
ที่อยู่ : 118 หมู่ที่5 ตำบลบ้านยาง อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
ป้ายกำกับ:
ทุ่งสีทอง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น